ประเทศไทยถือเป็นประเทศที่ผู้คนใช้รถ ใช้ถนนในการสัญจรไปไหนมาไหนเป็นจำนวนมาก ซึ่งไม่แปลกเลยที่ประเทศไทยของเราจะมีข่าวอุบัติเหตุเกิดขึ้นทุกวัน ซึ่งบางอุบัติเหตุก็เเค่เฉียดชน หรือบางอุบัติเหตุก็ประสานงานกันอย่างจัง ในเมื่อชีวิตของเราแขวนอยู่บนเส้นด้ายกลางถนน เราจำเป็นต้องทำประกันรถยนต์ เพื่อความปลอดภัย แต่ทั้งนี้หลายคนกลับไม่คิดจะทำประกันรถอาไว้ เพราะมองว่าเป็นของสิ้นเปลือง เพราะงั้นวันนี้เราเลยเตรียมเหตุผลดีๆ ที่ทำไมเราถึงต้องมีประกันรถมาฝาก
5 เหตุที่เราต้องทำประกันรถยนต์
- ไม่มีอะไรแน่นอน
แม้เราจะมีสติ ไม่ประมาท ไม่หลับในมาขับรถ แต่เราจะมั่นใจคนอื่นที่ใช้ท้องถนนร่วมกับเราได้อย่างไร รถที่ขับข้างๆ คุณอาจจะกำลังหลับในและอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นกับคุณก็ย่อมได้ หรือคราวดวงซวยเจอต้นไม้ล้มทับรถยนต์ของเราก็ย่อมได้ ดังนั้นเราควรมีประกันรถเพื่อคุ้มครองความเสียหายจะดีกว่า
- โจรกรรมรถ
รถยนต์ถือเป็นเป้าหมายของเหล่ามิจฉาชีพ เพราะพวกเขาจ้องจะหาจังหวะขโมยรถของคุณตลอดเวลา ถ้าเมื่อไหร่คุณเผลอละก็ คุณอาจโดนโจรกรรมรถยนต์สุดที่รักของคุณไปได้ ดังนั้นเพื่อเพิ่มความสบายใจยิ่งขึ้น แนะนำให้ทำประกันรถ เพราะประกันรถก็คุ้มครองในส่วนของรถยนต์โดนโจรกรรม
- ค่ารักษาพยาบาลแพงหูฉีก
เดี๋ยวนี้ค่ารักษาพยาบาลแพงมากๆ บางทีก็หลักหมื่น หลักแสน แล้วถ้าหากคุณประสบอุบัติเหตุในขณะขับรถ ถึงขั้นที่จำเป็นต้องได้รับการรักษาจากโรงพยาบาล ค่ารักษาเหล่านี้จะปาไปเท่าไหร่ แต่ถ้าคุณมีประกันรถยนต์ละก็ ประกันจะคุ้มครองค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับการรักษาพยาบาลให้คุณเอง
- ค่าทนายก็ไม่ใช่เล่นๆ
ในกรณีที่คุณเป็นคนขับรถประมาทจนเป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุกับบุคคลภายนอก จนถึงขั้นที่คุณต้องขึ้นศาล จะไปจ้างทนายความมาดำเนินเรื่องคดี หรือจะใช้เงินประกันตัว ค่าใช้จ่ายส่วนนี้ก็ไม่ใช่เล่นๆ แต่รู้ไหมคะประกันรถก็คุ้มครองในส่วนนี้นะคะ ไม่ว่าจะเป็นค่าประกัน หรือค่าทนายความก็ตาม
- ค่าซ่อมรถ
เป็นอีกกรณีที่คุณเป็นฝ่ายผิด ไปชนรถคนอื่นจนเกิดความเสียหาย คุณต้องรับผิดชอบด้วยการจ่ายเงินค่าซ่อมรถ ซึ่งค่าซ่อมก็มีตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักหมื่น ยิ่งถ้ารถคู่กรณีเป็นรถยุโรปค่าซ่อมยิ่งทวีคูณขึ้นไปอีก ดังนั้นการมีประกันรถยนต์จะช่วยเรื่องค่าซ่อมสำหรับรถคู่กรณีให้เอง โดยที่คุณไม่ต้องเสียเงินสักบาททั้ง 5 ข้อที่กล่าวไปข้างต้น ล้วนแต่เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเราถึงควรทำประกันรถยนต์เอาไว้ ทั้งนี้หากคุณต้องการทำประกันชั้น 1 ชั้น 2 ชั้น 3 ชั้น 2+ และ ชั้น 3+ ที่เว็บไซต์ของ Roojai ได้เลย
